บทบาทครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม
ครูไม่ควรวินิจฉัย
• การวินิจฉัย หมายถึงการตัดสินใจโดยดูจากอาการหรือสัญญาณบางอย่าง
• จากอาการที่แสดงออกมานั้นอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้
ครูไม่ควรตั้งชื่อหรือระบุประเภทเด็ก
• เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
• ชื่อเปรียบเสมือนตราประทับตัวเด็กตลอดไป
• เด็กจะกลายเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ครูไม่ควรบอกพ่อแม่ว่าเด็กมีบางอย่างผิดปกติ
• พ่อแม่ของเด็กพิเศษ มักทราบดีว่าลูกของเขามีปัญหา
• พ่อแม่ไม่ต้องการให้ครูมาย้ำในสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว
• ครูควรพูดในสิ่งที่เป็นความคาดหวังในด้านบวก แต่ต้องไม่ให้เกิดความหวังผิดๆ
• ครูควรรายงานผู้ปกครองว่าเด็กทำอะไรได้บ้าง เท่ากับเป็นการบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้
• ครูช่วยให้ผู้ปกครองมีความหวังและเห็นแนวทางที่จะช่วยให้เด็กพัฒนา
ครูทำอะไรบ้าง
• ครูสามารถชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของเด็กในเรื่องที่เกี่ยวกับพัฒนาการต่างๆ
• ให้ข้อแนะนำในการหาบุคลากรที่เหมาะสมในการประเมินผลหรือวินิจฉัย
• สังเกตเด็กอย่างมีระบบ
• จดบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นช่วงๆ
สังเกตอย่างมีระบบ
•ไม่มีใครสามารถสังเกตอย่างมีระบบได้ดีกว่าครู
• ครูเห็นเด็กในสถานการณ์ต่างๆ ช่วงเวลายาวนานกว่า
• ต่างจากแพทย์ นักจิตวิทยา นักคลินิก มักมุ่งความสนใจอยู่ที่ปัญหา
การตรวจสอบ
• จะทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไร
• เป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ครูและพ่อแม่เข้าใจเด็กดีขึ้น
• บอกได้ว่าเรื่องใดบ้างที่เด็กต้องการความช่วยเหลือ
ข้อควรระวังในการปฏิบัติ
• ครูต้องไวต่อความรู้สึกและตัดสินใจล่วงหน้าได้
• ประเมินให้น้ำหนักความสำคัญของเรื่องต่างๆได้
• พฤติกรรมบางอย่างของเด็กไม่ได้ปรากฏให้เห็นเสมอไป
การบันทึกการสังเกต
• การนับอย่างง่ายๆ
• การบันทึกต่อเนื่อง
• การบันทึกไม่ต่อเนื่อง
การบันทึกไม่ต่อเนื่อง
• บันทึกลงบัตรเล็กๆ
• เป็นการบันทึกสั้นๆเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนในช่วงเวลาหนึ่ง
การเกิดพฤติกรรมบางอย่างมากเกินไป
• ควรเอาใจใส่ถึงระดับความมากน้อยของความบกพร่อง มากกว่าชนิดองความบกพร่อง
• พฤติกรรมไม่เหมาะสมที่พบได้ในเด็กทุกคน ไม่ควรจัดเป็นสิ่งผิดปกติ
การตัดสินใจ
• ครูต้องตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง
• พฤติกรรมของเด็กที่เกิดขึ้น ไปขัดขวางความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กหรือไม่
บันทึกต่อเนื่อง
บันทึกไม่ต่อเนื่อง
การจดบันทึกเป็นคำๆ
วันนี้อาจารย์สอน เพลงฝึกกายบริหาร
เพลงฝึกกายบริหาร
ฝึกกายบริหารทุกวันร่างกายแข็งแรง
ฝึกกายบริหารทุกวันร่างกายแข็งแรง
รูปทรงสมส่วนแคล่วคล่องว่องไว
รูปทรงสมส่วนแคล่วคล่องว่องไว
ผู้แต่ง อ. ศรีนวล รัตนสุวรรณ
เรียบเรียง อ.ตฤณ แจ่มถิน
การนำไปประยุก์ใช้
-สามารถนำเอาเทคนิคการสอนโดยให้นักเรียนวาดรูปก่อนเข้าสู้บทเรียนไปใช้กับเด็กในอนาคตได้
-ไม่ไปตัดสินว่าเด็กมีความบกพร่องทางด้านต่างๆ และไม่บอกผู้ปกครองว่าเด็กบกพร่องอย่างไร
-ไม่ตั้งฉายาเด็ก
-สามารถจดบันทึกพฤติกรรมเด็กได้ โดยบันทึกจากสิ่งที่เห็นตามความเป็นจริง
-สามารถนำเพลงมาสอนเด็กได้ เช่น เพลงฝึกกายบริหาร จะใช้ในกิจกรรมกลางแจ้ง
การประเมิน
ประเมินตนเอง : เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียน และทำกิจกรรม
วาดภาพดอกทานตะวันให้เหมือนกับแบบและบันทึก
สิ่งที่เห็นจากภาพ
ประเมินเพื่อน : เข้าเรียนตรงเวลา เพื่อนๆตั้งใจเรียน และทำกิจกรรมกันอย่างสนุกสนาน
ในการบันทึกจากสิ่งที่เห็นในภาพดอกทานตะวัน
ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมได้เป็นอย่างดี
ประเมินอาจารย์ : เข้าสอนตรงเวลา มีกิจกรรมที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่สอน
ทำให้นักศึกษาได้รับทั้งความรู้ และความสนุกสนานในการทำกิจกรรม
ทำให้นักศึกษาเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น